เค้าเรียนอะไรกันใน Pre-sessional course
By Mr. OneLife
ความเดิมตอนที่แล้ว…………ก้าวแรก…เมื่อมาถึงเมืองนอก
ใครที่มหาวิทยาลัยตอบรับแล้ว แต่ต้องติดเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม (Conditional Offer) ยกมือขึ้น…!!!
น่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่มหาวิทยาลัยจะเสนอเงื่อนไขนี้ให้กับเรา ด้วยเหตุที่คะแนน IELTS หรือ TOEFL ไม่ถึงเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด โดยระยะเวลาการเรียนคอร์สนี้ก็จะลดหลั่นกันไป ขึ้นอยู่กับความอ่อนหัดทางภาษาของแต่ละคน ซึ่งผมก็เป็นคนหนึ่งที่ทักษะทางภาษาอังกฤษออกแนวครึ่งๆ กลางๆ จนมหาวิทยาลัยต้องให้เรียนคอร์สภาษาเพิ่มเติม ซึ่งครั้งนั้นผมต้องเรียนเพิ่มเติมอยู่อีก 6 สัปดาห์และก็ต้องสอบวัดผล ถึงจะผ่านเข้าไปเรียนต่อสำหรับคอร์สปริญญาโท MBA ได้
ผมยังจำภาพในวันแรกของการเริ่มเรียนภาษาของผมที่ประเทศอังกฤษได้ดี เพราะมันเป็นการย้อนเวลาให้ผมกลับไปเป็นนักศึกษาอีกครั้งหลังจากที่ทำงานมาได้ระยะหนึ่ง วันแรกของผมก็คือการเดินทัวร์รอบมหาวิทยาลัย โดยมีสต๊าฟของทางมหาวิทยาลัยแบ่งพวกเราเป็นกลุ่มๆ และคอยพาเราไปดูสถานที่เรียน รวมถึงชี้แจงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในมหาวิทยาลัย
ครั้งนั้นคอร์สเรียนภาษากินระยะเวลา 6 สัปดาห์ สำหรับคนชะตาเดียวกันกับผมมีประมาณร้อยกว่าคนเห็นจะได้ (นำทีมโดยชาวจีน ซึ่งมีประมาณ 80% ของคอร์สนั้นทั้งหมด) ตามมาด้วยคนเวียดนามและชาวไทย ส่วนชาวต่างชาติจากทวีปอื่นๆ เช่น อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง หรือพวกที่มาจากประเทศในแถบยุโรปก็พอมีบ้าง ส่วนนักเรียนอังกฤษแน่นอนเป็นศูนย์ (เค้าจะเรียนเพื่อ?)
ในวันต่อมา ทางมหาวิทยาลัยก็มีการจัดกลุ่มแบ่งห้องเรียนไว้ให้แต่ละคน โดยจะจัดแบบ random ไม่มีการรวมเชื้อชาติหรือคณะแต่อย่างใด ห้องเรียนถูกแบ่งให้มีนักเรียนอยู่ประมาณ 15-20 คนต่อห้อง ตัวผมนั้นค่อนข้างโชคดีที่ห้องของผมมีนักเรียนต่างชาติคละกันเยอะหน่อย ทั้งจีน ซาอุดิอาระเบีย ลิเบีย อิตาลี และชาวไทยตาดำๆ อีกสามหน่อ
หากจะให้นึกภาพห้องเรียนให้ชัดเจนหน่อย ก็คงเปรียบได้กับคลาสเรียนเวลาเราไป take course เรียนภาษากับสถาบันภาษาอังกฤษในไทยดีๆ นี้เอง
คาบแรกที่อาจารย์เข้ามาสอน คือ “ประโยคทักทายทั่วไป”
Hi there…
How are you?
อึ้ก….!!!!! (ตอนนั้นผมคิดในใจเลยว่าภาษาอังกฤษของผมมันง่อยขนาดต้องมานั่งเรียน ประโยคทักทายที่เคยเรียนมาตั้งแต่สมัยประถมเลยหรือ???)
หากใครเจอเหตุการณ์เช่นนี้แบบผมในวันแรกก็อย่าเพิ่งตกใจนะครับ เพราะผมว่านี้น่าจะเป็นคาบเรียนที่ต้องการให้เราละลายพฤติกรรมกันมากกว่า เนื่องจากมันจะต้องมีการฝึกพูดทักทายกับเพื่อนคนอื่นๆ ซึ่งก็จะทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น เพราะหลังจากนั้นชีวิตผมก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มมีเพื่อนต่างชาวชาติมากขึ้นอีกด้วย
ช่วงที่ผมเรียนคอร์สนี้ ทางมหาวิทยาลัยจะแบ่งช่วงเวลาเรียนเป็นช่วงเช้ากับบ่าย โดยช่วงเช้าจะเรียนเนื้อหาเกี่ยวกับทักษะทั้ง 4 (ฟัง พูด อ่าน เขียน) ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นการเรียนเกี่ยวกับทักษะในการหัดเขียนรายงาน (Assignment) ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำแน่ๆ ในช่วงเรียนปริญญาโท MBA
ช่วงที่เรียน Pre-sessional course ทางมหาวิทยาลัยจะมีแนวทางการสอนที่มุ่งเน้นให้เราได้เอาไปใช้จริงในการเรียน คือถ้าเป็นการฟัง เค้าก็จะให้เราฝึกการฟังควบคู่กับการเลคเชอร์ แล้วมาประเมินว่าเราสามารถจับใจความสิ่งที่เราฟังมาได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเรื่องที่ให้ฟังส่วนใหญ่ก็บันทึกมาจากสถานการณ์ห้องเลคเชอร์จริงๆ การพูดก็จะฝึกเราในเรื่องการทำ presentation และการออกมาพรีเซนต์หน้าห้องให้เพื่อนๆ ฟัง และให้เพื่อนๆ ถาม หรือวิพากษ์วิจารณ์กับเนื้อหาของเรา และยังเพิ่มเติมเรื่องประโยคที่ควรใช้ทั้งในการพรีเซนต์และการแสดงความคิดเห็น ส่วนด้านการอ่านก็จะเป็นการฝึกอ่านจากบทความทางวิชาการ (Journal) และสุดท้ายก็คือเรื่องการเขียน ซึ่งก็จะฝึกเขียน essay โดยจะกำหนดจำนวน words มาให้ (ไม่ใช่น้อยๆ แน่นอน) ซึ่งลักษณะการเชิงก็ต้องเป็นเชิงวิเคราะห์ วิจารณ์ สังเคราะห์การตกผลึกทางความรู้ของเรามากกว่า ซึ่งอาจจะมีการสอน Grammar แทรกมาบ้าง
ส่วนในคาบเรียนทักษะการเขียนรายงาน จะลงหนักไปในด้าน writing skill ซึ่งจะไม่เน้นการสอน grammar มากนัก แต่จะเป็นการสอนครอบคลุมทั้งเรื่องการค้นหาข้อมูลจากห้องสมุดทั้งจากหนังสือหรือสื่อ electronic เช่น e-book, Journal, Article ต่างๆ แล้วก็จะสอนเกี่ยวกับการเขียนหลายๆ รูปแบบทั้งเชิงวิเคราะห์ วิจารณ์ การว่างโครงสร้างเนื้อหาของตัวรายงาน การเขียนอ้างอิง (Reference) ซึ่งเมืองนอกค่อนข้างเข้มงวดกับการนำความคิดคนอื่นมาใช้เป็นอย่างมาก (ผมขอย้ำว่าให้ลืมไปได้เลยเรื่องทักษะ copy/paste ของเด็กไทย เพราะไม่งั้นแล้วเราจะโดนลงโทษฐานขโมยความคิดของผู้อื่นครับ)
จะเห็นได้ว่า Pre-sessional course นี้ จะมีประโยชน์กับเราในการเรียนในมหาวิทยาลัยค่อนข้างมาก เอาเป็นว่าผมให้เป็นข้อมูลสำหรับทุกท่านในการจะตัดสินใจลงเรียนกันดูละกันนะครับ…
**ภาพจาก www.londonmet.ac.uk
————————————————————————————-
บทความที่เกี่ยวข้อง
การจัดเตรียมของก่อนไปเรียนเมืองนอก (ตอนที่2)
การจัดเตรียมของก่อนไปเรียนเมืองนอก (ตอนที่1)
The Beginning of journey for study aboard
7 สิ่ง ของการค้นหาสภาพแวดล้อมที่ดีของการเรียน MBA
How to cover the cost of an MBA?
รวมหลักสูตร MBA มหาวิทยาลัยรัฐบาล
รวมหลักสูตร MBA มหาวิทยาลัยเอกชน